วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน"

 

"ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน"

...มันคงจะดี ถ้าเราทุกคน คิดและถือปฏิบัติเช่นนี้ 


สังคมคงมีแต่เจริญๆ ขึ้น เพราะ "มนุษย์แมลงสาบ"หายไป

บางคนอาจแปลกใจ อะไรคือมนุษย์แมลงสาบ เรื่องมนก็มีอยู่ว่า ชาวต่างชาติบอกว่าคนไทยเพราะชอบทำตัวเหมือนแมลงสาบ เขามีเรื่องเล่าว่ามีนักวิจัยชาวต่างชาติคนหนึ่ง เขาทำวิจัยเรื่องแมลงสาบ วันดีคืนดีนักวิจัยคนนี้ก็เอาแมลงสาบเป็นโหล ใส่โหล แถมเปิดฝาโหลทิ้งไว้ ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศตนเอง พอถึงห้องวิจัย เขาก็หยิบโหลแมลงสาบออกมา แปลก!!`แมลงสาบในโหล อยู่ครบทั้งโหล  ทำเอาเพื่อนงง



ว่าเหตุใดหนอ  พ่อนักวิจัยหัวใสก็ตอบเพื่อน แปลเป็นภาษาไทยแล้วได้ความว่า ไอมั่นใจ 99.999% ว่าแมลงสาบในโหลจะต้องอยู่ครบโหล เพราะว่ามันเป็นแมลงสาบจากเมืองไทย :$ มันไม่มีทางปืนขึ้นมาถึงปากโหลได้  เพราะมันมาจากเมืองไทย ก็เลยมีนิสัยเหมือนคนไทย แม้ว่าโหลจะไม่สูงมาก แต่มันมีกันเป็นโหล มันต้องแย่งกันไต่ขึ้นที่สูง หมายใจไว้ที่ปากโหล แต่ครั้นไอ้แมลงสาบตัวข้างๆมันเห็นเข้า ก็กลัว



ตัวที่ปีนๆ ไต่ๆ อยู่จะแซงหน้ามัน ยอมไม่ได้ มันก็ตะเกียกตะกายทั้งถีบทั้งยัน ลากไอ้ตัวข้างบนลงมาหงายท้องเค้เก้ซะ ตัวจะได้ไต่ไปถึงปากโหลก่อน  แต่ไอ้ตัวอื่นๆ ก็คิดเช่นกัน มันก็ดึงไอ้ตัวบนท้องหงายท้องลงมาเช่นกัน และมันก็ต่างดึงกันอยู่เช่นนั้น  สุดท้ายก็ไม่มีตัวไหนไต่ไปถึงปากโหลสักตัว แมลงสาบทั้งโหล ล่วงลงมากองก้นโหล เหนื่อยฟรี  ถ้ามันร่วมแรงกันผลักดัน แบบฮุย เร ฮุย โหลใบเล็กคงไม่อาจขังแมลงสาบเมืองไทยได้เป็นโหล นี่แค่น้ำจิ้มนะ แค่แมลงสาบจากเมืองไทย ก็ลองคิดเอาแล้วกันต้นฉบับมันจะขนาดไหน :$







แล้วคุณเคยเจอคนแบบนี้บ้างไหม ...ตอนเช้ามาทำงานทุกๆวัน ไปไหนมาไหนก็เป็นเหมือนเป็นคู่หู

Duo กัน "สารวัตรว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้น" ดูเผินๆเหมือนจะเป็นเพื่อนที่แสนดี เรื่องมันก็มีอยู่ว่า



สารวัตรท่านหนึ่ง ชอบซื้อไส้กรอกรมควันอันโตๆ มาแบ่งปันให้เพื่อนฝูงกินตอนเช้าๆ ไอ้แมงสาบ Opp ไอ้คุณเพื่อนซี้คู่หูคนนี้ ก็กินตุ้ยๆทุกวัน ตกเย็นเลิกงานท่านก็จะกลับบ้านช้าหน่อย เบื่อรถติด  ท่านก็

จะรวมกลุ่มเป็นสมาคมกินแมลงกัน หรือไม่ก็ไปนั่งหน้าปั้มสั่งน้ำตกหมูย่างส้มตำกินกันสนุกสนาน

ก็ว่ากันไปนู่น นี่ นั่น อยู่มาวันหนึ่ง เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ราคา 7 ล้านกว่าเกิดใช้การไม่ได้ ในช่วงเวลาสำคัญ ถึงตอนนี้คู่หูถึงกับตีลูกชิ่ง  พอดีอยู่ในเหตุการณ์ หุ หุ ทิ้งให้ท่านสารวัตร 2 คน ก้มๆเงยๆ

แก้ไข หาสาเหตุซะงั้น ไอ้คู่หูแมงสาบหายเดินหายออกไปจากห้องซะฉิบ บอกแค่ว่า ผมเป็นประเภทหัวโบราณ ไม่เคยไปทำอะไรกับเครื่องอยู่แล้ว นู่นเลยไอ้รุ่นน้อง(เพิ่งย้ายมา ยืนมองตาปริบๆแกมสงสัย) เห็นนั่งเล่นเกมส์ แล้วก็เอาเพลงไปลงคอมพิวเตอร์ ก็ว่ากันไป ไอ้รุ่นน้องมาใหม่นี่ก็เพิ่งหนีร้อนมา ยังไม่รู้ความถึงกับตาเหลือก  ก็เครื่องตั้งเจ็ดล้าน  โยนมาให้ลูกเบ้อเร่อเลย มันแค่เปิดเกมส์ Solitaire เล่นเอง เพลงก็เป็นเพลงแอโรบิค เปิดจากแผ่นมาสเตอร์ มันทำให้เครื่องเสียได้เชียวหรือเนี่ย ดีว่าโชคช่วย อุ้ย..ช่างช่วยวิศวะประจำเครื่องมาตรวจหาสาเหตุออกมาจนได้ แต่ก็ต้องซ่อมกันใหญ่โต เนื่องจากไม่ได้ใช้งานนาน 



และไม่มีการ warm เครื่องบ้างน่นเอง เฮ้อ รอดตาย! แต่ภาพตอนที่เห็นท่านสารวัตรถูกทิ้งให้ก้มๆเงยๆหัวชนกัน นั้นมันก็รู้สึกตำหนิในใจนิดหน่อย เนี่ย...แค่น้ำจิ้ม
...ต่อมาไม่นานไอ้เครื่องมือดังกล่าวอีกนั่นแหละ เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกขึ้นมา Engineer เขาได้แนะนำไอ้รุ่นน้องมือใหม่สนิทว่า ให้ถอดเอา Accessory ดังกล่าว ออกมาแช่กรด สิ่งที่ตันมันจะค่อยๆหลุดออกไปเอง แต่แค่คำพูดเอ็นจิเนีย มีหรือจะเท่าทันความฉลาด คราวนี้ถึงคราวรุ่นน้องถูกหวยบ้าง

ไอ้คณพี่แมงสาบผู้มีวาทะศิลป์เป็นอาวุธ พูดคำชมสองคำ พูดสองคำชมไปห้าคำ ช่างฟังระรื่นหู โบราณว่า"คนด่าไม่ให้โกรธว่ายากแล้ว แต่คนชมไม่ให้ยิ้มนี่สิยากกว่า" ไม้นี้ยังเป็นทีเด็ดและใช้ได้ดีเสมอมา แบบเสมอต้นเสมอปลายทุกยคสมัย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ขอกลับเข้าเรื่องมาที่ไอ้คุณรุ่นพี่แมงสาบ ผู้มีความคิดต่างอย่างแร๊ง! คิดว่าแค่เอาลมแรงๆเป่าเข้าไปก็หลุดแล้ว และก็จริงตามนั้น...มันหลุดออกมาจริงๆ หลุดมาทั้งสิ่งสกปรกพร้อมตัวมันเองด้วยเลยทั้งชิ้น ภาษาบ้านเจ้าของบล็อกเรียกว่า "แตก" เพราะมันเป็นแก้ว แต่ไอ้คุณรุ่นพี่ว่าเค้าไม่ได้ทำนะตัวเอง นู่นเลย เป็นรุ่นน้องอีกคนทำ ปิว...ววว ก็แล้วใครให้มันทำ

เนี่ย??!! ครั้งนี้ท่านสารวัตรผู้อาวุโสกว่า บอกว่าไม่เป็นไร แตกก็ซื้อใหม่ เสียก็ทำเรื่องแจ้งซ่อม ของมันเสียกันได้ (แต่ถ้าเชื่อวิศวะกรแต่แรก มันคงไม่แตก(มั๊ง) แต่ฟังดูก็ไม่น่าจะมีอะไร ง่ายดี แต่ต้องทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากซะก่อน ไอ้รุ่นพี่แมงสาบกลับเห็นไม่ตรงกัน ทั้งที่ผู้หลักผ้ใหญ่ก็ช่วยทำให้เป็นเรื่อง



เท่าขี้เล็บแล้วแท้ๆ แต่คงถึงคราวชะตาไอ้น้องที่เพิ่งย้ายมาไม่นานจะถึงเส้นตาย หนีร้อนมาได้น้ำใหม่ไม่ทันไร โดนแจ็คพ็อต แต่ไม่ใช่รางวัลที่หนึ่ง เป็นอะไรเดี๋ยวมาดูกัน    ไอ้รุ่นน้องหน้าจืดนี่ก็ไม่ได้ใหม่มาจากไหน แค่เป็นปลาใกล้ตาย ได้ท่านสารวัตรช่วยไว้ก่อนน้ำจะแห้ง เลยขอตามมาพึ่งพา  ก่อนจะออกมาเจ้านายเก่าเตือนไว้เป็นลางบอกเหตุ
"ไปอยู่ที่ใหม่ระวังจะมีปัญหากับไอ้รุ่นพี่แมงสาบที่แสนดีนี่แหละ
แต่มันไม่เชื่อแถมเถียงแทน พี่เขาเป็นผ้ใหญ่แล้ว และมันเองก็มักคุ้นกับระบบ
Seniority ดีเนื่องจากเคยไปเตร็ดเตร่่แถวกระทรวงกลาโหมบ่อยๆ
ก็ไม่น่ามีปัญหา" กระดี๊กระด๊าอยู่ไม่นานก็ถึงคราวซวย ไอ้เครื่องเจ้าปัญหาอีกตามเคย ต่อเนื่องจากไอ้ชิ้นที่แตกนั่นแหละ ทั้งหัวหน้าและท่านสารวัตรผู้เป็นนาย ต่างก็ว่าส่งซ่อม ซื้อใหม่ แต่เช้าเลย วันนั้นมีอบรมวิชาการ ไอ้น้องใหม่ร้ายบริสุทธ์เตรียมจะเข้า class วิ่งผ่านเจอไอ้คุณรุ่นพี่แมงสาบก็แถไปทักทาย เนื่องจากมันไม่ใช่หมอดูเลยไม่รู้ชะตาชีวิต แถมยังไปบอกท่านแมงสาบผู้มีวาทะศิลป์ดลบันดาล พูดต่อหน้าอย่าง ลับหลังกรุไม่รู้ว่า ถามท่านสารวัตรแล้ว ท่านบอกว่าให้ทำให้แจ้งซ่อม ซื้อมะ มะ มะ ใหม่ ยังไม่จบประโยค ก็โดนสวนมานิ่มนวล แต่คนฟังถึงกับสะดุ้งและเคืองกรุ่นๆ ด้วยประโยคที่ว่า "ทำไมชอบไปฟังคำพูดหมาข้างถนนที่ไหนพูด เขาไม่ใช่คนใช้เครื่อง จะมารู้ดีกว่าพี่ได้เยี่ยงไร T  T  แต่ไอ้น้องใหม่คงแสดงออกทางสีหน้าชัดไปหน่อย "พี่รู้นะว่าเราเคารพนับถือเขา (เออ แน่ะ รู้แล้วพูดมัยว้าา.. ยกตัวอย่างดีๆกว่านี้ไม่ได้หรือไง) กินก็กินของเขา ทุกวัน แต่ลับหลังเรียกอีกฝ่ายว่า "หมาข้างถนน" มันก็ฟังทะแม่งๆ วาทะศิลป์ดีแต่ต้องหัดยกตัวอย่างใหม่ จะได้ฟังไพเราะขึ้น มันว่าไปนั่น ยกตัวอย่างซะเสียหาย

อย่างนี้เรียก ขายเพื่อนหรือเปล่า

เขาตอบว่า เปล่า เพราะ ไม่ขายเพือน สำหรับเขาคือ...


ไม่ขายเพื่อนที่สนิทเป็นมิตรแท้ 


มิตรเทียมแย่ หากเกลือกกลั้ว จะมัวหมอง 


มันกับข้าแค่เพื่อนกินใช่พี่น้อง 


จึงมิต้องกังวลใจ ไปสนมัน ? ? ? 


เวลากินร่วมแจมยิ้มแก้มใส 


เวลาตายเอ็งไปก่อน ข้าทีหลัง 


หัวหน้าสูงสุดไม่ใช่..กระนั้นเลย อย่าไปฟัง

เคารพบ้าง เป็นบางครั้ง..เวลากิน ...





ย้อนมาที่ไอ้น้องใหม่ร้ายบริุทธิ์ ฟังหลายเรื่อง แต่ละเรื่องมันสะดุ้งทุกครั้ง เพราะมันนับถือท่านสารวัตร

อยู่จริงๆ แต่ต้องฟังคนอื่นพูดว่าด้วยคำพูดแรงๆ ได้แต่คิดในใจ เขาเป็นคนที่ยกตัวอย่างไม่เก่ง ขณะกำลังสาธยายความดีผู้อื่น ด้วยวาจาแสลงหูนู่น นี่ นั่น ... จะเป็นเคราะห์หรือกรรมไม่รู้ ที่ไอ้รุ่นน้องคนนี้ทีแรกก่อนจะวิ่งมามันกด Record บันทึกเสียงไว้ เพราะคิดว่าเดี๋ยวรุ่นพี่อาจจะสอนงาน เลยใช้ MP3 ช่วยอัดเสียงกันลืม ส่วนรุ่นพี่แมลงสาบ ก็พูดๆ ๆ ๆ ตั้งแต่ หมาข้างถนน ด่าฝรั่ง จนพาดพิงถึงวิศวะกร ที่ชอบเข้ามาสร้างความฉิบ-าย แล้วก็ไป ทุกครังที่มาทำ PM ทุกถ้อยคำ ถูกบันทึกไว้หมด โดย MP3 ตัวน้อยๆ (ขนาดเกาหลีที่ว่าแน่ ยังจับไม่ได้ว่าเป็นเครื่องอัดเสียง แต่รุ่นพี่แมลงสาบกลับสังเกตเห็นแสงไฟกระพริบๆ ตรงคอเสื้อ วิ๊บ วิ๊บ ถามว่านั่นคืออะไร และขอดู เพราะคงคลับคล้ายจะเคยเห็นพฤติกรรมทำไว้ก่อนหน้านี้ เลยขอเครื่อง mp3 แล้วหยุดพูดเรื่องเสียๆหายๆทันที ใช้วิธีเขียนใส่กระดาษแทน  งานเข้าแบบไม่ได้ตั้งใจ....ปิวววว

ไอ้รุ่นน้อง มันฟังแล้วเคืองๆ ทำไมต้องทำขนาดนี้ ไม่มีอะไรซกหน่อย ก็เครื่อง MP3 ทำไมต้องเอาไปให้ได้ มันไม่ได้ส่ง MP3 ให้เพราะกลัวจะโดนลบออกทั้งไฟล์ เดี๋ยวจะติดไฟล์อื่นไปด้วย ก็เลยเดินหนีมาเฉยๆ

แล้วมันก็คงจะผ่านไป แต่ทว่า...มันหารู้ไม่ว่า บัดนี้ รุ่นพี่แมงสาบได้จดเป็นความผิดลงบัญชีหนังหมาไว้เรียบร้อยแล้ว วิทยากรจากต่างประเทศมาสอนงานให้ ได้ยินเสียงถังแก๊ซ blow ระบายความดัน ทั้งถี่ ทั้งดัง ผิดปกติ ก็เลยแนะนำว่า แบบนี้น่าจะ Claim ได้ ทั้งหัวหน้าและท่านสารวัตรกับวิศวะกรที่มานั่งฟังก็ถกกัน แล้วก็เห็นด้วย แต่รุ่นพี่แมงสาบยืนกรานว่า Claim ไม่ได้  บ่ายวันนั้นเอง

น้องใหม่ขออนุญาตุไปหาแม่ที่ร.พ. กลับมาถึงตอนบ่าย ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินผ่านห้อง อีกแล้วครับท่าน

โดนเรียกเข้าห้องเย็น เข้าไปถึงก็บอกว่า เดี๋ยวแก็ซถังหน้าให้เอ็งจัดการ สั่งแล้วก็จองที่จอดรถ ติดต่อยาม

เองเลยนะ จะได้รู้ว่ามันยุ่งยากแค่ไหน ไอ้เด็กใหม่ยังงงๆ แต่ก็รับคำ นั่น...คงผิดหู พอถามว่าเป็นอะไร

ทำไมใครว่าอะไรอีก  รุ่นพี่แมงสาบก็บอกเลยเอ็งไปไหนมาล่ะ ข้าโดนรุมด่าอยู่คนเดียว  สามคนรุมด่าเขา แม้จะไม่เข้าใจก็เพราะมันไม่เข้าใจนั่นแหละ กรุไปเกี่ยวอารายว้าา...ก็ผ่านไป...จบมั้ย

เรื่องเล็กๆทั้งนั้นเลย  ให้ตาย พอดีเจ้าของบล็อกรับรู้ตลอด ตกเย็นวันเดียวกัน ไอ้น้องใหม่โดนอีก เห็นเดินบ่นนั่น บ่นนี่ แล้วก็ตบท้ายที่ว่าเอ็งได้เปรียบข้า ตรงที่เอ็งได้ภาษาอังกฤษ แต่อย่านึกว่าเอ็งจะชนะข้าได้นะ ???!!!?? งง ยัง งง มันเกี่ยอารายกันว้า  ถ้าเขาไม่พูดก็คงไม่มีใครคิด แต่เขาพูดเองว่าที่ไม่ค่อยพูด เพราะเขาไม่สันทัดภาษาอังกฤษ อืม..มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่ เราสักหน่อย




ไอ่น้องใหม่ทำตาปริบๆ แกมงงๆ ว่า แล้วกุคิดจะไปเอาชนะเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย จากนั้นก็ไอ้พี่แมงสาบก็ปิดประตูห้องเข้าไปพบหัวหน้า แล้วแจ้งว่าจะไม่สอนงานไอ้หน้าจืดที่มาใหม่นี่ต่อไปแล้ว
แต่เพิ่งมารู้ทีหลังจากท่านสารวัตรว่า วันหนึ่งไอ้พี่แมงสาบนี่ก็เดินมาปรารภว่า จะไม่ขอสอนงานให้น้องใหม่นี่แล้ว แต่ท่านสารวัตรไม่ได้บอกอะไรเป็นอะไร (แต่ที่บอกหัวหน้าใหม่ไปนั่นสิ ดีนะที่กรุไม่ได้ยิน)

ถามว่า อย่างนี้เขาเรียกว่าฆ่าน้อง หรือเปล่า คำตอบคือ

เปล่า เพราะรุ่นพี่แมลงสาบคงคิดว่า...

ไม่ฆ่าน้อง ถ้าน้องดี มีสัจธรรม

หากระยำ ชั่วช้า อย่าปล่อยไว้

กุต้องการ แค่ไฟล์เสียง ที่อัดไป

เมิงไม่ให้ จึงสมควรตาย กุจะไม่ไว้ชีวา

ทั้ง Spoil  Spy และป้ายสี

ยิ่งเมิงมีจุดอ่อนจุดอ่อน กรุจัดให้

ถ้ามึงล้ม
กรุยิ่งซ้ำ ให้บัลลัยล์

กระทืบเหยียบให้สาใจ
ก็ใครใช้ให้เมิงอวดดี





ไม่ลงให้กรุ นี่คือก้าวร้าว ไม่อยากบอกเลยว่า ไอ้รุ่นน้องหน้าใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ที่หนีร้อนหวังมาพึ่งเย็น  มันจะอึดอัดแคไหน เพราะสองเดือนผ่านไป โดนแกล้งใช้ให้ทำอะไรไม่รู้ นู่น นี่ นั่น ไม่ใช่งานเลย จนบางวันมาร้องไห้กับเจ้าของ


บล็อค เพราะคับแค้นใจ จะบอกท่านสารวัตรก็เกรงใจ ด้วยเห็นว่าบุญคุณที่ช่วยมาก็มีก็มากแล้ว ไม่อยากเอาปัญหาไปเพิ่มให้ท่านอีก ก็ไม่เคยบอกท่าน แต่เหมือนท่านจะรู้เอง จากไหนอันนี้ไม่ยืนยัน ว่าท่านรู้ที่มาที่ไปแค่ไหน เพราะถูกเก็บเงียบไว้ ไม่แพรมทั้งที่ระหองระแหงตลอดเวลา ขนาดวันหนึ่งท่านสารวัตรต้องไปมาเลเซียกับคู่หูคู่ซี้แมงสาบนี่ละแต่มันก็มีเรื่องยุ่งให้สะสางเยอะ ฟีดแบ็คคงไม่ดี สารวัตรถามไอ้รุ่นน้องว่าเอ็งคิดว่า

ไอ้รุ่นพี่แมงสาบเป็นคนยังไง มันก็ตอบไปเหมือนกันว่าไม่มีความเห็น ทั้งที่ในใจ(มันโดนมาเยอะ นึกไปถึงเหตุการณ์หนึ่ง ที่ผ่านมาไอ้รุ่นน้องกลิ้งท่อแก็ซหลุนๆ แต่มันคงหนักเอาการอยู่ จึงถูกแก๊ซท่อที่ภายในบรรจุก็าซฮีเลียมล้มทับ พับเพียบลงต่อหน้าต่อตารุ่นพี่แมลงสาบ  ..เจ็บ ลุกก็ไม่ไหวมันทับเบาๆ ที่่ไหน ชิชะมาเซลอน แต่รุ่นพี่แมลงสาบไม่เพียงไม่ช่วย หันมาบอกว่าเดี๋ยวขอไปโทรศัพท์ก่อน น้ำใจอ่ะนะ..ดำ !!เดินทิ้งไปซะงั้น คงตั้งใจให้น้องมันโดนท่อแก๊ซทับตายไปเลย...โทรศัพท์สายนั้น สำคัญกว่ากรุอีก

ผลสุดท้าย มันต้องเรียก รปภ. ที่บังเอิญผ่านมา ให้ช่วยยกขึ้น เดินไม่ได้เป็นอาทิตย์ มันเริ่มแน่ใจว่ารอยร้าวนี้ประสานยาก จากที่เคยเลี่ยงๆ หลบๆ เอาข้างเข้าปะทะ มาวันหนึ่งที่แน่ชัดมันถามว่ารุ่นพี่ที่เคยใจดีคนนั้นหายไปไหน แล้วคำตอบที่ไอ้แมงสาบให้มาคือ ตายไปแล้ว ตั้งแต่นั้นมันก็มั่นใจว่าต่อไปนี้ มันคงต้องช่วยเหลือตัวเอง แต่โชคยังดี ที่มีสารวัตรผู้เป็นนาย คอยเมตตาสอนวิชาความรู้ให้)

คอยดูแล-ห่วงใยเป็นทั้งนาย ทั้งเพื่อน  มีแค่สารวัตรผู้เป็นนาย ก็เพียงพอแล้ว มันก็เลยไม่สนใจไอ้แมงสาบต่อไป ใช้คำว่าพี่ไม่ได้แล้ว เพราะพี่มันตายไปแล้ว คาดว่ายิ่งทำให้มันดูก้าวร้าว และอวดดียิ่งขึ้นไม่เคยจบลง จนปัจจุบัน



ไม่ฟ้องนาย เมื่อนายดี มีน้ำใจ

หากนายไร้คุณธรรม จำต้องร้อง

ตัวกรุเก่งสารพัด ทุกอย่างกรุถนัด มันเข้าทำนอง

ถึงเวลาต้องเลื่อนขั้นขึ้นเทียบนาย

กรุเข้าหาผู้ใหญ่ และใหญ่กว่า

อำนาจพาบารมีบ้า เข้าผสม

พันธมิตรผลประโยชน์ผลัดกันชม

หน้าชื่นมื่นเพราะคำคมคารมดี



ขวางโครงการงานคนอื่นไม่อนุมัติ

ยุให้จัดเข้าทางตนก็กรุสนใจนี่

เสี้ยมผู้ใหญ่ให้มีเขา เอ้อแหนะ...ท่านดูเข้าที

แต่กรุเบ่งบารมี..เมื่อลับหลัง ทุกครั้งไป

เป็นเวลา กว่า 3 ปี ที่รุ่นพี่แมลงสาบ มันชักดาบมาแทงข้างหลังไอ้น้องหน้าจืด ทุกวี่วัน ด้วยเพราะคารมเป็นต่อ พูดจาภาษาดอกไม้ พูดอะไรนี้ ยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้วเลย พอหนักเข้าโดนทุกดอกแถมโดนทุกวัน คงยากที่จะบอกว่า ไม่เป็นไร
จะให้แบ่งแยกเรื่องส่วนตัว กับเรื่องงานแรกๆก็พอจะทำได้ แต่เมื่อรู้แจ้งแน่แท้แล้วว่าไม่มีประโยชน์ ยอมความไม่ได้ ก็เห็นจะต้องยอมให้มันขาดกันไปเลย ไม่ต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว มีอะไรก็ให้ไปคุยต่อหน้าหัวหน้า จากที่ไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต รุ่นน้องก็มีขีดจำกัดของมัน มาท้าให้ไปคุยต่อหน้าผู้ใหญ่ เหย็งๆ คงเดือด ผลุสวาทขึ้นมา ไปก็ไป จะพูดให้หมดทุกเรื่องเลย กระแทกเสียงเอาจริง
ไอ้รุ่นแมลงสาบ เพราะตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นพี่แล้ว คงนึกได้ มันมีบันทึกเสียงตัวต้นเหตุ อาจจะวายชีพได้ เดินมาครึ่งทางเปลี่ยนใจกระทันหัน แต่เมิงอย่างหวังว่าจะจบ และมันก็ไม่เคยจบ

จงรู้จักแยกแยะและไตร่ตรอง
อย่าเพียงท่องบ่นรู้...แบบงูปลา

เรื่องราวต่อไปยังเข้มข้น ปนความทุกข์ ติดตลกนิดๆ หลังจากเปิดปากและแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ก็ต้องจุกจนเจ็บ เมื่อไอ้น้องใหม่ที่เริ่มเก่าต้องเจอกับผี...ผีกระดาษ ผีเอกสาร ผีคอมพิวเตอร์  มันไม่ตลกเลย


to be continue>>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น