วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ป้องกันน้ำท่วมปี 2555 ไม่ใช่ของเล่น
กรุงเทพ...ต้องเตรียมพื้นที่รับน้ำเอาไว้ก่อน คือเคลียร์คลองในกรุงเทพให้แห้งกิ๊ก...เลยนะครับ แล้วก็เตรียมพื้นที่ระบายน้ำสำรองไว้ด้วย (ให้นึกถึงพื้นที่คลองส่งน้ำที่มีพื้นที่แบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งข้างบนและฝั่งข้างล่าง ลองนึกดูสิว่ายังมีพื้นที่ไหนที่สามารถรองรับปริมาณน้ำเพิ่มได้บ้าง จากปริมาณน้ำปกติ ให้สำรองพื้นที่ตรงนั้นไว้อย่าให้น้ำเข้าไป แต่เก็บไว้เป็นพื้นที่เผื่อเหลือเผื่อขาดเพื่อรอรับน้ำสำรองที่อาจท่วมเนื่องจากพื้นที่ในกรุงเทพระบายย้ำไม่ทัน)
ความหมายของพระราชดำรัส ท่านให้ระมัดระวังช่วงรอยต่อของคลองภายในกรุงเทพแต่ละคลองว่าความกว้างของคลองมันกว้างเท่าไหร่ กว้างกี่เมตรแล้วก็เปรียบเทียบช่วงรอยต่อดูสิว่าตรงไหนแคบหรือกว้างกว่ากัน เช่นคลองที่ 1 กว้าง 5 เมตร คลองที่ 2 กว้าง 3 เมตร แล้วสองคลองนี้มันต่อกันน้ำไหลมา มันก็ต้องท่วมพื้นที่ตอนล่างของคลองแน่นอน วิธีแก้ไม่ให้ท่วม คุณก็ไปเอาเครื่องผลักดันมาตั้งตรงรอยต่อของคลอง เสร็จแล้วก็ลองคำนวณปริมาณไหลเข้า ไหลออก (จำลองจากโมเดลดูก็ได้) ดูซิว่าความถี่ ความไวของการไหลเป็นเท่าไหร่ (มันมีเครื่องวัดอยู่) ทีนี้ก็มาคำนวณหาค่าชดเชยเอาว่าจะต้องตั้งกี่เครื่อง..ก็คิดจะช่วงกว้าง 2 เมตรที่หายไป จากคลองที่ 1 น้ำไหลเท่าไหล เราก็ลบจาก 3 เมตรของน้ำที่ไหลออกไป ผลก็จะได้ช่วงกว้างน้ำ ที่ขาดหายไปก็เท่ากับ 2 เมตรของคลองด้านบน จากนั้นเราก็มาคำนวณกับเครื่องดันน้ำว่ามันดันด้วยความเร็วเท่าไหร่ ได้เท่าไหร่ ก็เทียบบัญญัติไตรยางค์ไป แล้วก็เอาเครื่องไปติดไว้ตรงรอยต่อ พอน้ำไหลมา ก็ดันให้เร็วขึ้น ....ทางข้างหน้าต้องเป็นอย่างไร ต้องเรียบและโล่ง น้ำจะได้ไปไวไว ( เอาแค่นี้ก่อน ...แค่ว่าน้ำฝนตกลงมาแล้วกทม.เอาอยู่หรือเปล่า ...เพราะว่าน้ำในกทม.เขาถูกแบบไว้ระบายน้ำฝนส่วนเกินที่ท่วมพื้นที่ในกรุงเทพเท่านั้น (ใช่ไม๊)
** เขาไม่ได้มีคลองในกทม.ไว้รองรับน้ำจากภาคเหนือที่ไหลบ่าลงมานะครับ น้ำเหนือเขาออกแบบทางไว้แล้วให้ระบายออกทางด้านข้าง ก็คือเอาคลองรังสิตทั้งสายเลย เป็นฐาน ซึ่งเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีการสร้างกำแพงกั้นน้ำกั้นไว้ ประมาณว่ากำแพงกั้นน้ำที่กำลังทำใหม่อยู่ในขณะนี้นั่นเอง แต่....มีกำแพงชั้นนี้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่ากำแพงด้านนอกคุณจะไม่กั้น กำแพงด้านนอกคุณก็ต้องกั้น เคยวางกระสอบก็ต้องวางกระสอบ (ไปเตรียมมาไว้เลย...กระสอบ อย่างไรก็ต้องได้ใช้ เพราะถ้าคุณไม่มีแผนกั้นน้ำที่เป็นแนววางกระสอบเดิม แปลว่า...คุณจะปล่อยให้น้ำท่วมข้างนอกเหมือนปีก่อนเด๊ะๆ แต่ เขาได้ทำการกั้นพื้นที่สำคัญๆประเภทที่เป็น นิคมอุตสาหกรรม สถานที่ท่องเที่ยว...ทำหรือยัง มีมาตรการอย่างไร (ขนของขึ้นที่สูงแล้วจะคนไปไว้ที่ไหน...เอาคนนอนแช่น้ำเหมือนปีก่อน หรือจะให้เขาอยู่กันอย่างไร จะมีเรือกี่ลำจอดเป็นทางเข้าออกเพื่อการเดินทางกี่ลำคุณก็ว่าไป (ชาวบ้านเขาจะได้เตรียมตัวถูก) แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ ไปเตรียมพื้นที่คอนโดเอาไว้เลย 1 ชุด เอาสูงๆ เอาหลายๆห้องด้วย แล้วข้างล่างสักชั้นที่ 2 คุณก็เอาสะเบียงไปเก็บสะสมเอาไว้ เตรียมไว้ให้เป็นยุ้งข้าวเลย ถามว่าถ้าน้ำมา เอาไม่อยู่จริงๆ คุณก็อพยพคนไปอยู่ที่นี่ เตรียมช่องทางการเดินทางไว้ให้เขาแล้วก็ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า...ที่นี่มาอยู่ได้...มาอยู่ได้ถ้าน้ำท่วมบ้าน ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ก็ให้มาอยู่ที่นี้ ...ทำเป็นศูนย์ลี้ภัยเตรียมไว้ไม่เป็นเป็นหรือครับ (เงินเบิกไปตั้งเยอะ...เอาไปทำอะไรหมด) ทำไมไม่เอาไปซื้อของ พวกที่นอนหมอนมุ้ง เสื้อผ้า (ก็เอาเท่าที่จำเป็น...จะรอของบริจาคอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเวลาน้ำมา มันมาเยอะ ประชาชนก็วิ่งหัวชนกัน เจ้าหน้าที่ก็ไม่มี ...งานในส่วนนี้จะไม่มีคนรับผิดชอบ*** ตรงนี้เป็นช่องว่าง
คราวที่แล้วแก้ปัญหาโดยการใช้อาสาสมัคร คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะยังอยู่ที่เดิม รอให้คุณใช้ คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าทรัพยากรจะมีเหมือนเดิม การขนส่ง ปูนทราย มีสแปรไว้แล้วหรือยัง......นี่มันการเตรียมการรองรับน้ำระดับตำนานเลยนะครับ คุณทำเล่นๆได้อย่างไร (ตกกระโหลกแตกดีมั้ย)
ลำพังน้ำในกรุงเทพ น้ำท่วมเพราะฝนตกนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามีน้ำเหนือไหลลงมาทับด้วย ตัวใครตัวมัน ....ช่วยไม่ทันแล้ว นอนแช่น้ำไปได้เลย เพื่อความปลอดภัย แผนกั้นน้ำต้องเริ่มวางตั้งแต่ก่อนน้ำเข้าอยุธยา ไปสำรวจคลองดูเอาอยู่หรือเปล่า...ไม่ต้องไปดูก็รู้ เอาไม่อยู่ เพราะน้ำท่วมอยุธยาทุกปี ปีนี้ก็ต้องท่วม แต่คุณป้องกันได้ ทำไมไม่ป้องกัน คุณลงพื้นที่ คุณไปดูอะไรมาบ้าง ช่วงรอยต่อของแม่น้ำกับคลองในกรุงศรีอยุธยา ได้ไปสำรวจหรือยัง มีมาตรการอะไรรองรับบ้าง ถ้ามีน้ำท่วมจุดหนึ่งภายในกรุง คุณจะระบายน้ำไปทางไหน ...ตอบได้หรือยัง เพราะว่าต้องไม่ลืมว่าแนวกั้นน้ำตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว จากคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรม ทีนี้ถ้าเอาไม่อยู่ ตัดพื้นที่ตรงอุตสหกรรมออก น้ำจะมาเยอะกว่าปีก่อนอีก และก็สูงกว่าเดิมด้วย เพราะอะไร....เพราะพื้นที่รับน้ำที่เคยเป็นนิคมอุตสาหกรรมเดิมที่น้ำเคยเข้าไปท่วมหายไปแล้ว คุณจะเอาน้ำไปไว้ที่ไหน...จะระบายไปทางไหน จะสูบออกได้ตรงไหน บ้าง...ถ้าตรงนี้ตอบไม่ได้ ก็เสี่ยงนอนในน้ำเข้าไปอีก
...............
ประเด็นสำคัญก็คือแนวคันกั้นน้ำทั้ง 2 ข้าง ทั้งทางฝั่งศิริราช และฝั่งตรงข้าม ปีที่แล้วทำกำแพงกระสอบทรายกี่ชั้น แล้วปีนี้เอากำแพงกระสอบทรายออก แล้วชดเชยด้วยอะไร กำแพงเหล็กเปล่าๆ หรืออะไร ไม่ต้องปูกระสอบแล้วแน่นะ หาญไปหรือเปล่า
ฝั่งตรงข้ามศิริราช วางกำแพงกั้นหรือยัง สูงกี่เมตร คำนวณความสูงเผื่อปริมาณน้ำเหนือหรือยัง เพราะเส้นเจ้าพระยานี้ต้องรับน้ำหมดทั้งจากฝั่งตะวันออกที่ไหลลงไปจากทางตอนเหนือ แล้วปันให้ไหลออกมาทางซีกปทุมธานี ผ่านคลองรังสิต เส้นนี้ต้องแข็งทั้งเส้น ถามว่าทำไมต้องวางให้แข็ง เพราะระบบการบริหารจัดการน้ำของคุณเชื่อไม่ได้ เอาแน่อะไรไม่ได้สักอย่าง เลย ให้การไปคนละทางสองทาง ยังหาจุดเชื่อมโยงทางน้ำไม่เจอเลย ถามว่ารู้ได้อย่างไร ตอบว่ารู้ได้เพราะน้ำคุณไหลไม่มีความต่อเนื่อง น้ำทุกวันนี้ที่ไหลจากเหนือลงไม่เป็นสาย แต่จะกลายเป็นน้ำบ่า คือไหลมาเป็นหน้ากระดาน ไหลมาเป็นผืนๆ แล้วถ้าน้ำส่วนนี้มาเจอกับน้ำในทุ่งที่คั่งอยู่เพราะน้ำฝน............อีก เป็นอันจบข่าว หมดทางไป ถามว่ารู้ได้อย่างไร รู้จากข่าวภัยแล้งของคุณที่รายงานออกมาในแต่ละพื้นที่ไงครับ มันฟ้องว่าระบบชลประทานคุณไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน ไม่มีระบบชดเชยการส่งน้ำเลย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่น้ำล่างแห้ง แต่น้ำท่วมไหลมารวมกันตรงกลาง แล้วบอกน้ำแล้งอยู่ตรงปลาย ...........รายงานอย่างนี้มันเป็นไปไม่ได้ ฟังรายงานข่าวจากพื้นที่น้ำแล้ง ก็รู้แล้วว่าโกหก...เพราะมีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ แต่พอมาถึงช่วงปลายน้ำหรือตอนเหนือ แถบ พิษณุโลก ข้ามมาฝั่งสุรินทร์ ศรีษะเกต ........ภาพมันบอกว่าคุณไม่ได้มีการระบายน้ำแบบคลองส่งคลอง หรือที่เราเรียกว่าคลองโยงน้ำ เพราะถ้ามีระบบไหลตัวนี้รองรับน้ำอยู่ปัญหาน้ำแล้งจะต้องไม่มี ...แต่นี้มีทั้งที่น้ำในเขื่อนแห้งเกือบสนิท แปลว่าคุณปล่อยน้ำออกหมด ไม่มีกักเก็บไว้ในระบบที่เป็นคลองส่งน้ำ ที่ทำไว้เป็นลำคลองสายเล็กๆ ไม่มีแน่นอน
***คำถามคือน้ำท่วมแล้วน้ำหายไปไหน ............นี่สิข้อสงสัย ว่าน้ำหายไปไหน น้ำไม่ได้ไหลลงทะเล ไม่ได้อยู่ในแม่น้ำ ไม่ได้อยู่ในทุ่ง แล้วน้ำหายไปไหน เขื่อนก็ไม่มีน้ำ ถ้าน้ำไหลลงแม่น้ำมันก็ต้องไหลผ่านลำคลอง ไหลผ่านห้วยหนองคลองบึง แต่นี้น้ำหายไปเฉยๆ น้ำหายไปไหน ...สันนิษฐานได้ทางเดียวคือระบบส่งน้ำของคุณไม่มีความเชื่อมโยง มั่นใจ...ต้องมีบางจุดที่น้ำไหลออกทะเลไม่ได้ ไม่เช่นนั้นรายงานน้ำฝนจะต้องไม่ออกมาเป็นอย่างนี้...................ต้องมีคนโกหก 100 %
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น