วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หนึ่งปีนะ...อย่าลืม

  หนึ่งปีผ่านไป ปีที่ผ่านมาแทบจำจดจำอะไรไม่ได้เลย คงเพราะทำตัวไร้สาระไปวันๆหนึ่ง  วนเวียนตนเองอยู่ในสังคมโซเชียล   ตอนนี้อยากจะลด ละ เลิก แต่ก็น่าหัวร่อ ไม่เห็นมีที่ไปเลยแต่อย่างใด
ดูเหมือนว่าคำพูดนี้สื่อความหมายได้หลายอย่างทีเดียว  ปกติเคยคิด พูด ทำอะไรก็ทำไป ปล่อยไปตามสบาย ไม่ต้องมีความรับผิดชอบมากนัก  ทำก็ต่อเมื่อเป็นความรับผิดชอบและอยากจะทำด้วยใจเท่านั้น ความสุขเกิดจากการได้ทำในสิ่งที่ตนเองชืานชอบ มีความถนัด และสนุกสนานไปกับมันทุกขณะจิตที่ทำนั่นก็เพียงพอแล้ว  ไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสิ่งใดแล้วตัวเองจะทำได้ประสบความสำเร็จเลย  น่าขายหน้า แต่มันเป็นความจริงนี่นา หลายต่อหลายครั้งที่ตั้งรางวัล มีสิ่งของล่อให้อยากทำนี่ นู่น นั่น ไม่เคยเห็นจะทำอะไรสำเร็จสักที มันจะต้องตกม้าตายตอนจบทุกทีเหมือนกัน
แต่ถ้าลองว่าถ้าอยากทำ ฉันก็จะทำแบบไม่ลืมหูลืมตา เหมือนคนบ้าเลย  มีหลายคนเคยถามว่าถ้าเลือกได้อยากทำงานกับคนแบบไหน ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นคนช่างเลือกและเลือกที่รักมักที่ชังที่สุด แต่เมื่อต้องวางตัวเป็นกลาง ทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าลองมีเรื่องขัดเคืองใจอะไรขึ้นมา อภัยได้ก็ลืม อภัยไม่ได้ก็ไม่ถึงกับแค้นนะ ปล่อยวางได้ แต่การปฏิบัติตัวต่อกันอย่างที่เคยทำมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้นเอง  มันเหมือนเป็นความรู้สึก ลองว่าได้แผลรักษาหายมันก็ไม่เหมือนเดิม
บางคนอาจมองว่าเป็นความเครียดแค้น โกรธชัง  แต่ฉันมองว่าไม่ใช่ มันกลับเป็นเรื่องของความเต็มใจมากกว่า เหมือนเพื่อนที่เราเคยคบหา ช่วยเหลือกันมา
ถ้าเมื่อเริ่มแรก เราก็้แจก 100 ให้กันไป จากนั้น คะแนนตรงนี้มันก็จะลดลง ๆ ตามลำดับ ของเก่าจะสู้ของใหม่ได้ไง 55
   แต่ก็อีกนั่นแหละ บางครั้งการที่เราทุ่มเททำอะไรลงไปแล้วไม่สำเร็จ มันก็ต้องท้อเป็นธรรมดา จากที่เคยรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าก็เลยกลายเป็นเศษกรวด
ก็เลยคิดว่าไม่ทำจะดีกว่า เพราะทำสำเร็จไปก็มีค่าไม่ต่างกัน แต่ถ้าเป็นตัวฉันเองฉันจะทำเเพราะเห็นว่ามันมีประโยชน์อยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย ไม่ต้องทำแล้วเป็นคนดีในสายตาคนอื่นหรอกนะ แค่มันพอมีประโยชน์ใช้สอยอยู่ได้บ้างเท่านั้น จบ
-- ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว เริ่มนึกถึงการเปลี่ยนแปลง แต่ยังนึกไม่ออกเลย  ถ้าพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกไป มันก็จะกลายเป็นคนติดลบ แต่อย่างน้อย
เราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง  เฮ้อ ตกลงก็ยังคงคิดไม่ได้ว่าจะทำอะไร ต่อไปในปีใหม่ดี  ฉันไม่ชอบการต่อสู้ เพราะถ้าสู้แล้วแพ้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบทำสักเท่าไหร่  ยิ่งถ้าเป็นการรบที่ไม่จบ ไม่เสร็จ มันยิ่งน่าเบื่อ หากยิ่งมีในเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เนืองๆ เราว่าทำไปก็เปลืองตัวเปล่าๆ
มันไม่ทำให้ตัวเรามีคุณค่าขึ้นมา  ใช่ เป็นคนไม่แคร์ ไม่แยแสอะไรเลย ถ้าทำก็ทำเต็มร้อย ถ้าไม่ทำก็ไม่ทำเลย ที่จริงฉันไม่มีตรงกลางนะ สำหรับการใช้ชีวิต จะมีก็แต่ความคิดเห็นนี่เองที่พอจะเป็นกลางหน่อย คงเพราะหนังสือที่ชอบอ่านตอนเป็นเด็ก  นั่งเขียนไดอารี่วันนี้ก็เพราะไม่มีอะไรจะทำอยู่นั่นแหละ การจะริเริ่มทำอะไรตอนนี้มันเหมือนไม่มีไฟเอาเสียเลย ยิ่งถ้าทำแล้วต้องเป็นการนำพาตนเองไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ต้องยืมจมูกเขาหายใจ ฉันยิ่งขี้เกียจใหญ่ เกรงว่ามันจะทำคนอื่นให้ลำบากเสียเปล่าๆ มันเป็นความขัดแย้งกันเองภายในตัวฉัน และในปีนี้มันกำลังจะจบลง  ปีหน้าไม่ต้องมีหน้าที่ต้องสร้างภาพ
อะไรอีกแล้ว ก็คงจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามาในชีวิตบ้าง เปลี่ยนจากสังคมเดิมๆ ความคิดเดิมๆ และคนที่ไม่รู้จัก เป็นเหมือนปลากระโดดลงในบ่อน้ำใหม่
ว่ายไปหาลำธารใสสายเล็กๆข้างหน้า หวังว่าที่นั่นจะยังมีแสงตะวันรอฉันอยู่  สุขสันต์วันปีใหม่  แด่เธอ ...คนในความทรงจำของฉัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น