รถไฟไทยวันนี้...จะพัฒนาใหม่ หรือ ปล่อยให้เป็นตำนาน
* หวูดดังว้าว ว้าว ว้าว เสียงราวจะเรียกใคร
มาไปที่รถไฟ ไปไหนก็เร็วพลัน
หวูดดังปู๊น ปู๊น ปู๊น เสียงพูนเพิ่มสุขสันต์
ร้องเพลงรถไฟกัน หฤหรรษ์สุขสดใส
เชิญระเริงรื่น ชื่นซึงกะซึงฉั่ง
สุขสมและครื้นเครงกับเพลงบรรเลงไป
สนุกกันฮาเฮ เห่ ร้องรถไฟ
สุขล้ำฤทัยเพลินชึงฉึ่งฉั่ง
หวูดดังป๊าน ป๊าน ป๊าน สำราญแสนสุขจัง
ชี้ชวนให้กันฟัง ดังขรมรื่นรมย์ใจ
หวูดดังว้าว ว้าว ว้าว ว้าว
ไม่รู้สินะ อาจเป็นเพราะตั้งแต่เรียนประถมฯ ตอนอยู่หอวัง ก็เลือกที่จะนั่งรถไฟไปโรงเรียน ไม่ต้องตื่น
ตี 4 เหมือนเวลาไปด้วยรถเมล์ ตกเย็นก็เลือกที่จะนั่งรถไฟกลับ
เวลารถไฟวิ่ง ลมมันเย็นกว่านั่งรถเมล์เป็นไหนๆ ทุกๆวันจะรวม
ก๊วนกันที่ตู้เสบียง ร้อง เล่น พูดคุย กันสนุกสนาน วันไหนได้ตั๋ว
ที่เลขรวมกันได้ความหมายดีๆ ก็จะเก็บไว้ เพราะเมื่อก่อนตั๋วรถไฟ
จะ เป็นตั๋วใบเล็กๆ แข็งๆ สีส้มอมชมพู ถ้าไปไกลๆ ก็จะเจอสีอื่นๆ เช่นสีเขียว สีชมพูจ๋า พอได้ยินเสียงดังแก๊บ แก๊บ แก๊บ แสดงว่าคนตัดตั๋วกำลังเดินมา ใคร มาช้าซื้อตั๋วไม่ทันก็หลบข้างหลังเพื่อน ส่วนบางคนใช้ตั๋วเดือน...ก็สบายไป แต่เราก็เลือกที่จะซื้อตั๋วเพราะจะเก็บตั๋วไว้อธิษฐานตามประสาเด็กๆ นั่นแหละ
ถ้าใครจำไม่ได้ เราก็มีรูปตั๋วเก่าๆมาให้ดู
พอ ทำงานอ้าว บังเอิญเห็นช่องทาง เดินทางด้วยรถไฟท่่าจะดีกว่า ไม่ชอบนั่งรถเมล์ แถมรถไฟวิ่ง ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แต่มันวิ่งเป็นเส้นตรงๆ จากบางซื่อ-รังสิต แปล๊บเดียวเอง แต่ต้องเลือกเอา ระหว่างยืนตลอดทางก็กลับเที่ยวแรกๆ ช่วงเวลาคนกลับบ้าน 4 โมงเย็น คนจะเยอะมาก เราไม่ชอบเข้าไปเบียดข้างใน ชอบยืนตรงข้อต่อโบกี้มากกว่า อย่างน้อยพอรถไฟวิ่ง ก็ยังได้ลมพัดเย็นบ้าง ถ้าอยากนั่งสบายๆก็กลับช้าหน่อยสัก 6 โมงรถชานเมืองก็ยังมี ได้นั่งด้วย ถ้าไม่ได้นั่งก็ไม่เป็นไร เพราะคนไม่เยอะ ก็จะมานั่งกินลมตรงทางบันได ทางขึ้น-ลง นั่นแหละ เพราะคุ้นชินเลยไม่กลัวเรื่องตกรถ แต่ไอ้ที่เจอบ่อยๆ คือตกรถ แบบขึ้นไม่่ทันซะมากกว่า เพราะนอนใจ ด้วยปกติรถไฟจะไม่เคยมาก่อนเวลา ฉึกฉัก ฉึกฉัก ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ร้อยละ 90 จะเห็นรถมาช้า หรืออย่างดีก็ตามเวลา เสียงนายสถานีก็จะประกาศผ่านโทรโข่งเก่าๆ ที่ติดอยู่ชายคาสถานี ..เหมือนกันหมด
เคย สงสัยเหมือนกันว่า นายสถานีนี่เขาคัดกันมาหรือเปล่า เพราะไม่ว่าจะสถานีไหน ก็จะต้องได้ยินเสียงประกาศดังแตกๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตำแหน่งนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่นี่สถานีรังสิต,บางซื่อ,อยุธยา,สามเสน...ๆ ท่านผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะลงสถานีรังสิต โปรดเตรียมสิ่งของและสัมภาระของท่าน รถออกจากสถานีรังสิตแล้วจะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารสถานี...เป็นสถานีต่อไป ขอบคุณครับ เหมือนกันหมด...มีอยู่ครั้งหนึ่ง นั่งหลับเลยไปถึงอยุธยา แบบงงๆ ทำไมถึงหลับเลยมาได้เนี่ย วันต่อมาจึงสังเกตว่านายสถานีรังสิตเปลี่ยนไป น้ำเสียงนุ่ม แบบพระเอก เสียงไม่แตก ไม่แผดจนแสบแก้วหูนี่เอง ทำให้เราไม่ได้ยิน เพราะปกติถ้าหลับก็ได้เสียงแผดๆของนายสถานีนี่ละ ปลุกให้ตื่น
รถไฟชนคน, รถไฟชนกับรถยนต์,รถไฟชนมอเตอร์ไซต์, รถไฟชนรถไฟก็เคย ที่ว่ามานี่ไม่บอกก็น่าจะเดาออกว่าตายเท่านั้น
ยัง มีที่เจอแต่ไม่ตายก็มี เช่นคนตกจากรถไฟ ความจริงต้องบอกว่าแกโดนถีบลงมามากกว่า เพราะเมาแล้วคงก่อกวน สร้างความรำคาญใจให้อีกฝ่าย รถไฟตกรางก็เคย รถไฟวิ่งถอยหลัง รถไฟไฟไหม้ นี่ก็เจอ เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนยังว่ามีด้วยเหรอ ตอบได้เลยว่ามี เจอมา สองครั้งแล้ว ยังเหลืออะไรอีกล่ะ นี่ลองดูจากภาพ น่าจะพอเดาออกบ้าง ในรูปค่อนข้างเบลอเพราะไม่สันทัดกล้องตัวนี้ และรีบถ่ายเพราะเข้าห้าม ลูกศรในภาพทางซ้ายคือส่วนท้ายประมาณ 2-3โบกี้นับจากด้านหลัง ส่วนรูปลูกศรทางขวา เป็นส่วนหน้าขบวนที่ขาดออกจากกัน ห่างประมาณ 3-4 เมตร ดีว่ารถขบวนยาวก็เลยมีความเร็วต่ำ ไม่งั้นก็นึกไม่ออกเหมือนกัน เฮ้อ...
ยัง มีที่เจอแต่ไม่ตายก็มี เช่นคนตกจากรถไฟ ความจริงต้องบอกว่าแกโดนถีบลงมามากกว่า เพราะเมาแล้วคงก่อกวน สร้างความรำคาญใจให้อีกฝ่าย รถไฟตกรางก็เคย รถไฟวิ่งถอยหลัง รถไฟไฟไหม้ นี่ก็เจอ เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนยังว่ามีด้วยเหรอ ตอบได้เลยว่ามี เจอมา สองครั้งแล้ว ยังเหลืออะไรอีกล่ะ นี่ลองดูจากภาพ น่าจะพอเดาออกบ้าง ในรูปค่อนข้างเบลอเพราะไม่สันทัดกล้องตัวนี้ และรีบถ่ายเพราะเข้าห้าม ลูกศรในภาพทางซ้ายคือส่วนท้ายประมาณ 2-3โบกี้นับจากด้านหลัง ส่วนรูปลูกศรทางขวา เป็นส่วนหน้าขบวนที่ขาดออกจากกัน ห่างประมาณ 3-4 เมตร ดีว่ารถขบวนยาวก็เลยมีความเร็วต่ำ ไม่งั้นก็นึกไม่ออกเหมือนกัน เฮ้อ...
ถ้า ใครเคยดูภาพยนตร์ต่างประเทศ แล้วเจอฉากที่มีการตัดโบกี้รถไฟทิ้งมันซะเลย ขอบอกเลยว่าไอ้โบกี้ที่ถูกตัดมีโอกาสทั้งวิ่งถอยหลัง และแป่กอยู่กับที่ ขึ้นอยู่กับความเร็ว วันนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ นั่นก็คือรถไฟโบกี้ขาดนั่นเอง ถ้าใครนึกไม่ออกก็ลองนึกถึงรถไฟวิ่งฉึก ฉัก ฉึก ฉัก พอดีเป็นรถเร็วสายกรุงเทพ-อุบล ขบวนยาวมาก มันคงเหนื่อย เลยทิ้งไอ้ 2-3 โบกี้ด้านท้ายมันซะเลย บังเอิญนั่งอยู่โบกี้สุดท้ายซะด้วย งงมาก เพราะวันนี้คนน้อยก็มีที่นั่งเหลือ ถ้าไปนั่งตรงบันไดสงสัยจะจุก เจ็บ ผมอาจจะมีเซนต์ครับเพราะเฉียดทุกครั้ง แบบเส้นยาแดงผ่าแปดทุกที ก็เอาใจช่วยครับให้การทางรถไฟได้งบซ่อมบำรุงมาต่อชีวิต ยืดอายุให้หัวจักร-เครืื่่่องยนต์ของรถไฟอีกหน่อย
ความรู้สึึก ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นไปตามลำดับ คือ งง งง ฮา ฮา ซึม ซึม ปลง ปลง อีกหน่อยมีรถไฟความเร็วสูงคนก็คงลืม รถไฟไทยที่มีประวัติเป็นร้อยปี ดังที่เพลง แรกๆก็สงสัย ทำไมรถไฟถึงถูกปล่อยทิ้งให้สกปรก เลอะเทอะ จนไม่น่านั่งเลย ทิวทัศน์ข้างทางก็เลอะเทอะตลอด 2 ฝั่งทาง ถ้าวิ่งผ่านแนวป่าหญ้าที่ไม่มีผู้คนอาศัยก็สบายตาหน่อย กลายเป็นว่าชุมชนที่อาศัยอยู่่ริมทางรถไฟกลายเป็นสลัมไปซะงั้น
ถ้า ใครลองไปยืนริมทางรถไฟ ตอนหลังฝนตกใหม่ๆ ขอเตือนว่าอาจมีเสียชีวิตได้ เพราะกลิ่นช่างไม่รัญจวนเอาซะเลย เฮ้อ...ถึงจะเสียดายบรรยากาศเดิมๆ ที่คลาสสิคเล็กๆ ทำให้อดพาเพื่อนชาวต่างชาติไปลองนั่งทุกครั้ง เมื่อต้องเป็นไกด์จำเป็น แต่พอเห็นสภาพ ร.ฟ.ท.ในปัจจุบันแล้วก็คงได้แค่ทำใจ จะยกเครื่องหัวจักรใหม่ก็ต้องใช้งบมหาศาล ก็ต้องซ่อมบำรุงกันไปตามมีตามเกิด ปล่อยให้ร้อยกว่าปีรถไฟไทยให้กลายเป็นของเก่า คร่ำครึ รอวันโละทิ้งไปตามระเบียบ ไม่รู้เหมือนกัน รถไฟความเร็วสูงจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่อยากปิดใจ เพราะขึ้นชื่อว่าของใหม่ มันก็คงสร้างความสะดวกสบาย และอาจเพิ่มในเรื่องการท่องเที่ยวอีกด้วย อะไรๆก็ ไม่จีรังยั่งยืน แม้ทางรถไฟจะยาวแค่ไหน แต่อายุการใช้งานรถไฟคงไม่ยาวยืนเท่า รอไว้อาลัย ได้แค่นั้นหรือ ร.ฟ.ท